วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ตัวช่วยให้ผิวหน้าแลดูสุขภาพดีหลังการหน้าจากดอกสายน้ำผึ้ง กับ Mamonde First Energy Essence

อันยองงงง ผู้อ่านทุกท่าน ทักทายเกาหลีกันขนาดนี้ไม่ต้องถามเลยว่าวันนี้นิกส์จะมารีวิวผลิตภัณฑ์จากประเทศไหน 55 :) ไหนใครทายไม่ถูก มาๆ บอกให้ วันนี้นิกส์จะมารีวิวผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ Mamonde อ่านว่า "มามอนด์" ซึ่งมาจากเกาหลีนั่นเองค่าา ซึ่งแบรนด์นี้นิกส์ได้อ่านรีวิวจากบล็อกเกอร์และคนที่รีวิวในพันทิป จีบันมาหลายคนตั้งแต่ประมาณสองปีก่อนละ อีกอย่างพี่สายป่าน (sp saypan) [หนึ่งในบล็อกเกอร์ที่นิกส์ตามเลยค่ะ] เคยพูดถึงตัวอายส์ครีมของแบรนด์นี้ว่าดีงามด้วย เราก็อยากลองเนอะซึ่งสินค้าแต่ละชิ้นคะแนนรีวิวสูงมากทั้งนั้น พอดีมีโอกาสว่างๆก่อนไปศูนย์หนังสือจุฬาเลยไปที่พารากอนเดินเตาะแตะหาสกินแคร์มาใช้แทนอันเก่าของนิกส์ที่หมดไป ซึ่งตัวเก่ามันแพงง่าาา ซื้อแล้วเจ็บปวดกระเป๋าตังมาก เลยเดินวนๆไปแล้วเจอเคาเตอร์ของทางมามอนด์ ซึ่งนิกส์เคยเห็นพรีเซนเตอร์ของทางแบรนด์นั่นคือ ปาร์คชินฮเย (Park Shin Hye) หรือน้องผักนั่นเองค่าาา (ได้ข่าวนางแก่กว่าชั้น แต่ทำไมหน้าเด็กกว่า ==" ) ซึ่งเป็นนางเอกซีรี่ย์เกาหลีคนนึงที่นิกส์ชอบมากเพราะสามารถแสดงได้ดี แถมมีเอกลักษณ์ทำให้จำง่าย ซึ่งนิกส์ชอบมาตั้งแต่แสดงYou're Beautiful, The Heirs,Pinocchio และก็เรื่องล่าสุดDoctors ที่แสดงทีชั้นก็จิกหมอนแทบกระจุย 555 ></// น้องผักถือว่าเป็นพรีเซนเตอร์ที่ดังมากแล้วเค้าก็มีโฆษณาMamonde First Cushionด้วย พอเดินไปเจอแบรนด์นี้เลยอยากลองสินค้าเค้าด้วยแถมตัวที่เค้าพรีเซ้นต์ที่เป็นตัวเด่นเลยก็ตรงกะที่นิกส์กะลังคิดจะสอยมาพอดี เลยจัดมาซะหน่อย

ก่อนอื่นให้ดูหน้าพรีเซนเตอร์ผู้น่ารักพร้อมโฆษณากันก่อน สวยใช่มะล่าาา ^^





แบรนด์มามอนด์ (Mamonde) เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางชั้นนำจากประเทศเกาหลีใต้ ภายใต้บริษัท อมอร์แปซิฟิก โดยคีย์หลักของแบรนด์นี้คือการนำดอกไม้นานาพันธุ์มาเป็นส่วนผสมเพื่อการดูแลผิว เพื่อให้ผิวมีความสวยและแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก  โดยทางแบรนด์มีการเปิดตัวในเมืองไทยเมื่อประมาณกุมภาพันธ์ 2016 โดยตอนนี้เค้ามีทั้งหมด 3 สาขา
- เคาน์เตอร์ สยามพารากอน ชั้น M โซน Beauty Hall Tel. 02-610-7756
- เคาน์เตอร์ เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ชั้น 1 โซน Beauty Hall Tel.02-550-0465
- เคาน์เตอร์ เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 1 โซน Beauty Gallery Tel.02-541-1197




อันนี้เป็นภาพจากสาขาสยามพารากอนนะคะ เดินตรงเข้าไปผ่านพวกคลีนิกซ์และสารพัดน้ำหอม จะเห็นขวดเหลืองขาวใหญ่ๆชัดเจนเลยค่ะ 555 ^ 0 ^


มีเทสเตอร์ให้ลองเยอะอยู่ แบ่งเป็นกลุ่มๆ เลือกง่ายดีค่ะ




มีเครื่องสำอางมากกว่าที่นิกส์คิดไว้อีก ปกติเคยอ่านแต่รีวิวของพวกสกินแคร์กับคูชั่น น่าลองๆ >0<


ภาพชินฮเยใหญ่มากกก ไม่เห็นให้รู้ไป 555 


นี่คือคูชั่นที่นิกส์บอกนะคะ เพิ่งออกมารุ่นเดียวการปกปิดค่อนข้างดีเลย มีคนบอกว่าคุมมันดี แต่สีมีให้เลือกน้อย ถ้าผิวเข้มมากคงต้องข้ามไปก่อนนะคะ กำลังเล็งว่าจะไปสอยมาใช้อยู่  ตอนที่นิกส์ไปเค้ามีจัดกิจกรรมชิงรางวัลไปเที่ยวกับปาร์คชินฮเยที่มาเลเซียด้วย



อันนี้เค้ามีจัดชุดเซ็ต ซ้าย 1,450฿ ขวา 1,590฿ แล้วได้ลุ้นไปมาเลเซียด้วย 
นิกส์ว่าก็คุ้มอยู่นะได้ลองหลายชิ้นด้วย อยู่ตรงเคาเตอร์ที่นั่งพนักงานอ่ะค่ะ เผื่อใครสนใจ

ทีนี้ตัวที่นิกส์ไปสอยมาก็คือ Mamonde First Energy Essence ซึ่งเป็นตัวที่นิกส์จะมารีวิวด้วย โดยMamonde First Energy ตอนนี้เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใหม่ล่าสุด ที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียนกระชับและกระจ่างใส ฟื้นฟูบำรุงผิว คืนความสดใสเปล่งประกายให้กับผิวด้วยดอกสายน้ำผึ้งหรือ Honey Suckle ที่ผ่านกระบวนการหมักบ่มพร้อมมีแลคโตบาซิลลัสที่มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวด้วย โดยผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีมา 2 ตัว คือ Mamonde First Energy Essence (มามอนด์ เฟิร์ส เอเนอจี เอสเซน) 150ml  และ
Mamonde First Energy Serum (มามอนด์ เฟิร์ส เอเนอจี เซรั่ม) 100ml โดยตัวเอสเซนจะเหมาะสำหรับคนผิวมัน/ผิวผสม และชนิดเซรั่มจะเหมาะสำหรับคนผิวแห้ง โดยราคาทั้งคู่เท่ากัน 990฿ โดยจะใช้เพือการปรับสมดุลผิวหลังการล้างหน้า และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดูสุขภาพดี ก่อนบำรุงขั้นถัดไป


อันนี้ภาพทั้งคู่ที่เคาเตอร์


นีคือภาพดอกสายน้ำผึ้ง ซึ่งจะเปลี่ยนจากสีขาวมาเป็นสีเหลือง เครดิตตามในรูปเลยนะคะ


นี่คือชิ้นที่นิกส์ไปสอยมาโดยมีพนักงานที่เคาเตอร์ช่วยเลือกมาค่ะหลังจากลองนู่นนี่ 555 โดยขวด Mamonde First Energy Essence ค่อนข้างใหญ่อยู่นะคะ มีสายดอกไม้น่ารักดีค่ะ



ด้านหลังขวดภาษาเกาหลีมาเต็ม ขนาดนิกส์อ่านออกยังขอบายอ่ะ เห็นแล้วตาลายมาก กระดาษกล่องเค้าเป็นนูนต่ำด้วยแหละเลยยิ่งทำให้อ่านยาก ซึ่งเค้ามีเล่าที่มาของแบรนด์ ประโยชน์ของดอกสายน้ำผึ้ง และก็รายละเอียดของผลิตภัณฑ์

ส่วนนี่่คือ ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ ที่นิกส์ขีดเส้นใต้ไว้เพราะเป็นตัวที่มีความสำคัญได้แก่ สารสกัดเข้มข้นจากดอกสายน้ำผึ้งที่ใช้แทนน้ำเลย และใส่มา 81.31% ถือว่าเยอะมาก และแลคโตบาซิลลัสที่ได้จากการหมักบ่ม ซึ่งทำงานได้ดีกว่าวิตามินซี เพื่อช่วยให้ผิวกระจ่างใสและต่อต้านอนุมูลอิสระ กับตัวแอลกอฮอล์และน้ำหอมที่คนที่แพ้ขอให้ระวังหรือไปลองทดลองผลิตภัณฑ์ดูก่อนว่าแพ้มั้ย แต่น้ำหอมเค้าใส่มาไม่เยอะเท่าไหร่เพราะขนาดนิกสืใช้ยังไม่ค่อยได้กลิ่นเท่าไหร่เลย แต่นิกส์แนะนำว่าให้ไปลองดูก่อนจะดีกว่าค่ะ ผิวคนเราไม่ได้เหมือนกัน 

ทีนี้มาดูการใช้และผลลัพธ์หลังจากที่นิกส์ลองมาสัปดาห์กว่าๆ คล้ายๆเป็น first impression เพราะจะให้สกินแคร์บอกผลในวันเดียวคงไม่ได้ หรอกเนาะ 555 โดยวิธีการใช้จะใช้หลังจากล้างหน้าเสร็จแล้วถ้าใครใช้โทนเนอร์ก็เช็ดโทนเนอร์ให้เสร็จก่อน แล้วเทผลิตภัณฑ์ใส่มือหรือใครจะใช้สำลีเช็ดก็ได้นะคะ โดยจะเช็ดหรือทาจากบริเวณจมูกเว้นรอบตากับปากไว้ ไล่ไปยังแก้มและตามด้านข้าง โดยใช้การกดผลิตภัณฑ์เบาๆเพื่อให้เนื้อผลิตภัณฑ์ซึมเข้าผิวด้วย {เดี๋ยวดูในคลิปได้ค่ะ ^^ } 








ในส่วนของเนื้อผลิตภัณฑ์เนื้อของเอสเซนจะเป็นน้ำใสๆเลย {ถ่ายให้ดูสองแสงเลย ว่าใสจริง ^^ } ตอนที่เปิดขวดมาครั้งแรกนิกส์ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ด้วย แต่พอใช้ครั้งที่สองก็ไม่มีกลิ่นละ เวลาจะดมกลิ่นก็เอามาใกล้ๆจะได้กลิ่นดอกไม้อ่อนๆ อ่อนมากจริงๆช่วงเป็นหวัดนี่ไม่ได้กลิ่นเลย เวลาที่ทาบนหน้าแล้วนิกส์ได้กลิ่นคล้ายๆของหมักเหมือนเวลาเข้าไปโรงงานไวน์อ่ะค่ะ แต่หลังการทาก็ไม่มีกลิ่นอะไรนะคะ ตัวเนื้อผลิตภัณฑ์ซึมไวมาก ทำให้สามารถลงสกินแคร์ตัวถัดไปได้เลย ไม่ต้องเสียเวลารอแห้ง ในส่วนของตัวเซรั่มนิกส์ได้ลองที่เคาเตอร์เค้าก็มีกลิ่นอ่อนๆเหมือนๆกันแต่ตัวเนื้อจะขุ่นขาวกว่าและข้นกว่าตัวเอสเซนหน่อย แต่พอเกลี่ยก็จะใสและซึมหายไปไม่ทิ้งคราบ แต่จะซึมช้ากว่าตัวเอสเซนหน่อย ตอนแรกนิกส์ก็ลังเลว่าจะเอาตัวเซรั่มมาดีมั้ย แต่เค้าบอกให้เลือกตรงกับผิวจะดีกว่านิกส์เลยเอาตัวเอสเซนมา เพราะคิดว่ายังไงก็ทำงานหน้าที่เดียวกันเอาแบบที่ซึมเร็วๆและตรงกับผิวก็ดี



อย่างที่บอกในคลิปนิกส์ได้ลองแบบ first impressionของ สกินแคร์เลย คือ 10วัน เพื่อให้รู้ผลลัพธ์คร่าวๆ จากการใช้ที่ผ่านมา นิกส์ให้ 9/10 คะแนน เพราะจากที่ใช้มาครีมบำรุงขั้นถัดไปทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น เนื้อซึมง่ายแห้งเร็ว ทำให้ไม่ต้องมานั่งรอหน้าแห้ง ไม่ทำให้หน้ามัน เป็นคราบ แพ้หรือลอก มีกลิ่นหอมอ่อนๆ มีส่วนผสมของสารสกัดจากดอกสายน้ำผึ้งมาในปริมาณเยอะ ทำให้ผิวดูสม่ำเสมอขึ้นในระดับนึง แต่สำหรับนิกส์จากที่ลองมายังเห็นผลในเรื่องความสดใส ตึงกระชับ ไม่ชัดเจน อีกทั้งตอนเพิ่งเปิดขวดกลิ่นแอลกอฮอล์นี่มาเลย คนที่แพ้คงต้องไปลองเทสต์ก่อนซื้อ ในส่วนที่ยังไม่เห็นผลอาจจะต้องให้ระยะเวลาเค้านานกว่านี้เพื่อแสดงผลลัพธ์ก่อน ซึ่งราคาไม่สูงมากตก 6.6฿/1ml นิกส์ถือว่าเป็นการลงทุนที่ดีเพื่อให้ผิวสวยๆอยู่กับเราไปนานๆ

อย่างที่รีวิวไปใครสนใจอยากลองสามารถไปตามเคาเตอร์ที่นิกส์บอกด้านบนได้เลยนะคะ ส่วนใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สามารถไปดูและสอบถามได้ที่ https://www.facebook.com/Mamondethailand/?fref=ts สำหรับนิกส์ขอตัวไปก่อนละค่าา บัยยยย :)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น