- e.l.f. All Over Color Stick 3202 Honey คอนซีลเลอร์
- e.l.f. All Over Color Stick 3106 Spotlight คอนซีลเลอร์ที่ให้ความเป็นไฮไลท์
- e.l.f. All Over Color Stick 3101 Pink Lemonade บลัชออน
ซึ่งนิกส์จะมารีวิวในส่วนของบรัชออนกันค่ะ
แพกเกจของบรัชออนจะมีสีขาวตัวอักษรสีดำอ่านได้ง่าย ตรงหัวมุมขวาบนจะบอกรหัสและชนิดของผลิตภัณฑ์ไว้เลยว่าเป็นบรัชออนสีPink Lemonade ถ้าไม่ชัวร์ก็สามารถเช็คได้เลยค่ะว่าบรัชออนสีชมพูแน่ๆ เพราะหัวพลาสติกที่ครอบเป็นพลาสติกใสสามารถมองเห็นได้จากด้านบน และมีการเขียนด้านข้างไว้ด้วยว่าเป็นแบบสติ๊ก
ข้างหลังแพกเกจจะมีภาษาไทยขนาดเล็กบอกไว้ว่าใช้ทาแก้มเพื่อความสวยงามค่ะ แต่ที่ควรเช็คคือส่วนผสมที่เป็นภาษาอังกฤษด้านซ้ายล่าง ซึ่งเป็นตัวอักษรขนาดใหญ่อ่านง่ายซึ่งถือว่าดีมาก มาในขนาด 4g ซึ่งบอกเลยใช้ได้นาน เวลาใช้ก็แค่ปาดหรือวนขึ้นมานิดเดียวเอง โดยส่วนผสมมีการผสมแว็กซ์สังเคราะห์ สารปิโตรเลียม คริสตัลขนาดเล็ก ไมก้า และพาราเบนนะคะ ถ้าไปที่เคาเตอร์หรือร้านที่ขายบางที่เค้าจะมีให้ลองเทสใครที่กลัวแพ้ไมก้ากับพาราเบนสามารถลองก่อนได้ค่ะ ถ้าเปิดใช้แล้วควรใช้ให้หมดใน 12 เดือนนะคะ โดยแบรนด์นี้เค้าไม่มีการทดลองในสัตว์แถมการซื้อผลิตภัณฑ์เค้าจะแบ่งเงินไปทำบุญด้วย โดยผลิตที่จีนใต้การควบคุมของอเมริกานะคะ
ลองปาดกับแขนจะเห็นได้ว่าเค้ามีสีชมพูอมม่วง และมีชิมเมอร์ให้เห็นค่อนข้างชัดนะคะ มีกลิ่นหอมหวานอมเปรี้ยวอ่อนๆ แต่เมื่อลองเกี่ยแล้วสีเค้าจะกลายเป็นสีชมพูระเรื่ออ่อนๆ แต่ประกายชิมเมอร์ค่อนข้างชัดอยู่ ถ้าล้างแค่น้ำเปล่าชิมเมอร์จะยังคงติดอยู่นะคะแต่สีจะจางซีดลงเยอะ
ทีนี้ก้ได้เวลามาลองกับหน้าจ้าาาา > <
นิกส์ลงรองพื้น/บีบีก่อนนะคะ ใครถนัดอะไรเอาที่ชอบเลย หรือจะคอนซีเลอร์เฉยๆก่อนก็ได้ เพื่อเตรียมความเนียนให้หน้า แล้วก็ใช้นิ้ววนเนื้อบรัชออนขึ้นมา นิกส์จะไม่ใช้ปาดแก้มโดยตรงนะคะ กลัวจะได้ตูดลิงแทนหากปาดหนักมือเกิน จะใช้ก่อนเซตแป้งหรือหลังเซตแป้งก็ได้ถ้าใช้หลังเซตแป้งจะสามารถใช้แทนบรัชและไฮไลท์ได้เลย ไม่เป็นคราบและทนอยู่นะคะ แต่นิกส์ชอบใช้ก่อนแป้งมากกว่า
ค่อยๆแตะบิ้วสีขึ้นจะได้สีดูระเรื่อดังคนสุขภาพดี
นิกส์ใช้เป็นอายแชโดว์เบสด้วย เพราะชอบแต่งตาประกายชมพูอยู่แล้ว สีอายแชโดว์จะได้ดูชมพูชัดขึ้นอีกนิดแล้วก็ลงสีอายแชโดว์ไล่สีน้ำตาลเข้มไปชมพูอ่อน เสร็จแล้วก็กรีดอายไลเนอร์ปัดขนตาทาปากตามที่ชอบ
แล้วก็จะได้ฟินนิชลุค แบบแบ๊วๆ มีแก้มระเรื่อๆอมชมพูแบบไม่ต้องเพิ่มไฮไลท์ค่าาา ^ 0 ^
มาเทียบกันชัดๆ 555
อันนี้นิกส์ทดสอบความทนหลังผ่านไป 8 ชั่วโมงแบบไม่เติมไม่ซับใดๆแค่รอเหงื่อแห้ง หลังจากไปแว้นมอไซด์ ทำงานและแอโรบิคเรียบร้อย (ถึงจะออกกำลังกายก็ต้องสวยเผื่อมีผู้ชายมาจีบ 555) แก้มสียังเหลือชมพูอ่อนๆยิ่งดูธรรมชาติไปอี๊กก ตาจางลงแต่ก็ยังคงอยู่
จากที่นิกส์ใช้มาสักพัก ให้ 9/10 คะแนน ที่หักไปบ้างเพราะยังไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านทั่วไปนัก ส่วนใหญ่ต้องซื้อจากเว็บ กับความเป็นชิมเมอร์ที่ค่อนข้างมาก บางคนอาจไม่ชอบ และถ้าคุณเป็นคนที่ผิวอุดตันหรือแพ้ได้ง่ายผลิตภัณฑ์นี้อาจต้องระวังในการใช้นะคะ แต่นิกส์ชอบในสีที่ได้แถมทาได้ทั้งก่อนและหลังลงแป้ง ,มีกลิ่นหอมอ่อนๆ สามารถพกไปที่ต่างๆได้ง่ายขนาดไม่ใหญ่เกิน ไม่ต้องพกแปรงไปด้วย เนื้อครีมเกลี่ยง่าย สีติดค่อนข้างทน สามารถใช้แทนอายเบสได้ เหมาะกับคนที่ไม่อยากพกเครื่องสำอางมากแต่หน้าต้องโอเคตลอดเว ราคาไม่แรงมาก สีสวยแต่มีให้เลือกน้อยอยู่
สำหรับคนที่สนใจสติ๊กบรัชออนแท่งนี้และอีกสองชิ้นที่เหลือ ของ e.l.f. ราคาแท่งละ 119฿ สามารถหาซื้อได้ที่เว็บ http://www.sephora.co.th/brands/elf หรือจะซื้อที่เว็บอื่นๆก็ได้ค่ะรวมถึงใครอยากซื้อจากแบรนด์โดยตรงสามารถเข้าไปที่ http://www.elfcosmetics.com/ แล้วเลื่อนลงมาที่ Asia & Pacific แล้วกดเลือก Thailand เค้ามีสินค้าทุกตัวของเค้าเลย และส่งทั่วโลกฟรีเมื่อซื้อ 25$ ขึ้นไปถ้าไม่ถึงก็เสียค่าขนส่งกันไป แต่ราคาถูกว่าไทย 1$ ยังไม่รวมภาษีหรือค่าอื่นๆ(เหมาะกับคนที่มีบัตรเครดิตและบัญชีPaypal และถ้ามีปัญหาในการซื้อต้องใช้อังกฤษคุยกะเค้าเน่อออ)
ปล.ถ้าซื้อไม่ถึง 1,000 บาทไม่เสียภาษีไทยนะคะ แต่ถ้าสั่งของมาเกินพันบาทหรือมีลิปสติกก็ไปลุ้นเสี่ยงโดนภาษีนำเข้าเอานะคะ ลุ้นดีๆ นิกส์ทำมาแล้ว 555 ^0^ ไม่ชอบลุ้นและอยากได้เร็วๆก็ในไทยเถอะค่ะง่ายกว่าราคาไม่แพงจนเกินไปเท่าไหร่ ของนำเข้าราคาประมาณนี้ก็พอจะรับได้อยู่
ส่วนรอบนี้ไปก่อนนะค้า เจอกันรีวิวหน้าค่าาาา ^ ^ <3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น